ใครจะคาดคิดว่า ลำธารใสที่ไหลลัดเลาะหล่อเลี้ยงแดนโคนมแห่งนี้จะมีวันเกรี้ยวกราดน่ากลัวขึ้นมาได้
ชีวิตของธรรมชาติ .. ก็เหมือนชีวิตของคนเรา ธรรมชาติมีฤดูฝนอันชุ่มฉ่ำสดชื่น ฤดูหนาวที่แจ่มใสเยือกเย็น และฤดูร้อน อันแห้งแล้ง ฟาร์มโคนมฯ นับเป็นแหล่งธรรมชาติที่แท้จริงจากการที่เป็นดินแดนดั้งเดิมของดงพญาเย็น ทุกฤดูกาลที่ผ่านมาภูมิอากาศจึงค่อนข้างเข้มข้น ฝนตกต้องตามฤดูกาลก็จริง แต่บางครั้งตกกระหน่ำน่ากลัว ลำธารสายเดียว ที่ไหลผ่านหล่อเลี้ยงทุกชีวิตในแดนนี้มีกำเนิดจากเทือกเขาใหญ่ ไหลหลากมาสมทบกับ แหล่งน้ำพุ ของฟาร์มทางด้านใต้รวมตัวกันเป็นคลองมวกเหล็กที่ทอดยาวคดเคี้ยวเป็นคุ้งโค้ง มีน้ำตกน้ำโจนเป็นระยะๆ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำแหล่งน้ำพุ ดังกล่าวอยู่สุดเขตฟาร์มโคนมบริเวณเชิงเขาตาแป้น ลักษณะเป็นซอกหินคล้ายอุโมงค์ พอให้คนร่างใหญ่มุดลอดเข้าไปได้ ถ้าเป็นฤดูฝนระดับน้ำจะสูงท่วมปากอุโมงค์ไม่สามารถจะมุดฝ่าแรงดันน้ำเข้าไปได้ แต่ถ้าเป็นฤดูแล้งน้ำจะสูงประมาณครึ่งปากอุโมงค์ ถ้าลอยคอลอดเข้าไปภายในประมาณสองวาจะพบว่าสามารถยืนได้ ระดับน้ำภายในสูงถึงอกหรือแค่คอ ด้านหน้าเป็นผนังหินภูเขา เพดานอุโมงค์สูงขึ้นไปประมาณสองคนต่อ กว้างวาเศษ เป็นเพดานดิน มีก้อนหินขนาดเขื่องหลายก้อนฝังอยู่ห่างบ้างชิดกันบ้าง ส่วนที่โผล่ออกมาก้อนเล็กก็ขนาดบาตรพระ ถ้าเงยหน้าขึ้นมองเป็นต้องรู้สึกเสียววูบวาบ หวาดระแวงเกรงว่ามันจะหลุดหล่นลงมา ส่วนผนังหินภูเขาที่ขวางหน้ามีโพรงกว้างประมาณศอกเศษ น้ำไหลทะลักพรั่งพรูออกมาจากโพรงหินนี้ค่อนข้างแรงทีเดียว มันไหลออกไปสมทบกับน้ำในคลองด้านนอก ตรงนี้เป็นแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงฟาร์มโคนมตลอดมา คนเก่าๆ รุ่นก่อนเรียกบริเวณนี้ว่า “แปลงน้ำพุ”



















