ณ เวลานี้ .. หมู่บ้าน อ.ส.ค.ทั้งสี่มีอยู่ไม่ครบแล้ว แต่จะมีใครสักกี่คนที่ยังจดจำชื่อหมู่บ้านได้ครบถ้วนทั้งหมด ?
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) หรือ ฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ค ดินแดนที่มีประวัติศาสตร์สำคัญเป็นตำนานซ่อนเร้นอยู่ … เป็นตำนานในตำนานมาหลายศตวรรษจากฝืนป่าริมขอบดงพญาไฟ ป่าใหญ่ในอดีตต้นตำนานของดงพญาเย็นและบ้านมวกเหล็กสถานที่อันเป็นแหล่งก่อตั้งฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ค จุดกำเนิดอาชีพพระราชทานการเลี้ยงโคนมก่อนยกฐานะเป็นองค์กรในเวลาต่อมา
เมื่อแรกเริ่มอาณาจักรเล็กๆ ของฟาร์มโคนมแห่งนี้ มีพื้นที่ 3,130 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุและป่าสงวนที่กรมป่าไม้และกรมปศุสัตว์ดูแลอยู่ โดยตั้งเป็นสถานีบำรุงพันธุ์สัตว์ที่เรียกกันว่า “ด่านกักสัตว์” สำหรับตรวจโรคและฉีดวัคซีนให้กับสัตว์พวก วัว ควาย หมู แพะ แกะ ที่พ่อค้าไล่ต้อนขนส่งขึ้นล่องลงมาจากภาคอีสาน นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานตำรวจหน่วยหนึ่งเรียกกันว่า “ตำรวจม้า” รวมอยู่ด้วย พื้นที่ฟาร์มทั้งสองฝั่งถนนมิตรภาพรัศมีกว่าครึ่งกิโลเมตรตามแนวลำคลองมวกเหล็ก มีอาคารบ้านพักที่กรมปศุสัตว์และกรมป่าไม้ปลูกสร้างไว้กว่ายี่สิบหลัง มีคอกสัตว์อีกหลายหลังสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ.2495 – 2498 เพื่อใช้เป็นที่พักและที่ทำการชั่วคราวสำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการสำรวจป่า ตรวจสอบรังวัดพื้นที่และจัดทำแผนผังในโครงการปลูกป่าต้นสัก เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าดั้งเดิมที่ถูกบุกรุกแผ้วถางจนเสื่อมโทรมและเพื่อการจัดตั้งวนอุทยานน้ำตกมวกเหล็กที่จะมีขึ้นในไม่ช้านี้
ในจำนวนบ้านพักดังกล่าวทั้งหมดมีหลังหนึ่งเป็นเรือนไม้หลังใหญ่ใต้ถุนสูง เรียกกันว่า “บ้านจอมพลผิน” เนื่องจากเป็นที่พักของจอมพล ผิน ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ทุกครั้งที่มาตรวจราชการในสมัยนั้น ส่วนพื้นที่ด้านตะวันตกห่างจากบ้านจอมพลผินประมาณหนึ่งกิโลเมตร เป็นที่ตั้งค่ายตั้งแค้มป์ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ “ตำรวจม้า” ดังกล่าวข้างต้น ครั้นปี พ.ศ. 2505 .. เมื่อโครงการฟาร์มโคนมฯ ก่อตั้งขึ้น พื้นที่ราชพัสดุและพื้นที่ กรมปศุสัตว์ซึ่งประกอบด้วย ด่านกักสัตว์ คอกสัตว์ อาคารบ้านพักทั้งหมด รวมทั้งค่ายตำรวจม้า ได้เปลี่ยนไปอยู่ในความดูแลของฟาร์มโคนมฯ ทั้งหมด อาคารบ้านพักรวมทั้งคอกสัตว์ดั้งเดิมกลายเป็นบ้านพัก บ้านรับรอง และคอกโคของฟาร์มโคนม



















