วัวในฟาร์มทุกตัวต่างมีบทบาทหน้าที่ บางตัวโชคดี บางตัวโชคร้าย บ้างกลายเป็นตำนานที่น่าจดจำ บ้างถูกขนานนามว่า .. อาจารย์ ก็มี !!
ฤดูหนาวเข้ามาเยือน ความหนาวเย็นแผ่ปกคลุมไปทั่วแดนโคนม ทั้งขุนเขา ผืนป่าและทุ่งหญ้า ธรรมชาติมีฤดูร้อนอันแห้งแล้ง ฤดูฝนอันชุ่มฉ่ำสดชื่น และฤดูหนาวที่แจ่มใสเยือกเย็น ฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์คขณะนี้ตกอยู่ในสภาพนั้น ท่ามกลางความหนาวเย็น ยังไม่ทันจะรุ่งอรุณเสียงระฆังดังกังวาน เร่งระรัว ได้ยินไปทั่วทั้งหอแดง เมื่อเวลาสี่นาฬิกา เป็นสัญญาณเร่งรัดปลุกให้ตื่นลืมตา นักเรียนฟาร์มกลุ่มที่จะต้องไปปฏิบัติงานที่แผนกโรงวัวต่างตะลีตะลานลุกขึ้นทำธุระส่วนตัวอย่างรีบเร่งแข่งกับเวลา เพราะระยะทางจากหอแดง ถึงคอกโคไกลกันพอสมควร
ตามปกติคอกโคหรือโรงวัวนั้นจะมีพนักงานเจ้าหน้าที่และคนงานของฟาร์มโคนมขึ้นไปปฏิบัติงานประจำอยู่แล้ว ดังนั้นทุกเช้ามืดฟาร์มโคนมจะจัดรถบรรทุกขึ้นไปส่งที่คอกวัวทุกวัน ผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่ใช้บริการนี้นักเรียนฟาร์มก็เช่นเดียวกัน นอกจากคนที่ชอบเดิน ชอบวิ่งก็จะพาตัวเองฝ่าลมหนาวไปตามถนนที่ทอดยาวจากหอพักไปยังคอกโคเนินเขา ระยะทางราวๆ เจ็ดร้อยเมตร ที่สำคัญ .. คือ ต้องไปให้ทันหรือก่อนเวลาปฏิบัติงานเล็กน้อย เพราะต้องลงเวลาทำงานก่อนทุกวัน ..
มันเป็นกฎ ! ! พอเวลา 5.00 น. หัวหน้าแผนกโรงวัวหรือเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมงานจะมาจ่ายงานให้ทุกคน หลังจากนั้น .. หน้าที่ใครหน้าที่มัน .. สำหรับนักเรียนฟาร์มในวันแรก มีเจ้าหน้าที่มาแนะนำงานให้แล้วปล่อยไปดูงานก่อน จากนั้นต้องเป็นลูกมือช่วยงานเจ้าหน้าที่หรือคนงานที่ทำอยู่เพื่อศึกษางานไปในตัว โดยแบ่งกลุ่มแยกกันออกไป บนคอกโคหรือโรงวัวนั้นนักเรียนฟาร์มต้องเรียนรู้งานให้ครบ ทุกด้าน มีงานรีดนม งานผลิตอาหารและแร่ธาตุ การเลี้ยงโคนม โคพ่อพันธุ์ การเลี้ยงลูกวัว งานสัตวแพทย์ เป็นต้น แต่ละงานมีรายละเอียดวิธีการขั้นตอนปลีกย่อยมากมายที่จะต้อง ฝึกปฏิบัติ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความสำคัญจำเป็นทั้งสิ้น



















